อีเมลที่ลงทะเบียน *
รหัสผ่าน *
จำการเข้าระบบไว้
เข้าสู่ระบบ
อีเมลแอดเดรส *
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกใช้เพื่อประมวลผลคำสั่งซื้อของคุณ และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามที่ประกาศไว้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว
ลงทะเบียน
ไม่มีสินค้าในตะกร้า
เป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับเอนไซม์มากถึง 300 ชนิดในร่างกาย ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่เรียกว่า metalloenzyme คือเป็นเอนไซม์ที่มีโลหะเป็นองค์ประกอบอยู่ในโมเลกุล จำเป็นต่อกิจกรรมของเอนไซม์ หรือทำให้เอนไซม์มีความคงตัว
นอกจากนี้ซิงค์ยังมีบทบาทเกี่ยวข้องในขบวนการเจริญเติบโตของร่างกายและการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ รวมถึงในขบวนการเมตาบอลิซึม และการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายรวมถึงเซลล์ผิวหนัง และยังมีบทบาทในการสร้างและเร่งขบวนการเจริญหรืองอกใหม่ของเส้นผม จึงมีการนำซิงค์มาเป็นส่วนผสมในแชมพู
งานวิจัยของ Sharquie K. E. และคณะ (2016) สรุปให้เห็นว่าการทานซิงค์ในปริมาณ 5 มก./ กก./วัน เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยให้เส้นผมมีการงอกใหม่อย่างสมบูรณ์ในผู้เข้าร่วมวิจัยที่มีอาการผมร่วงได้ถึง 62 เปอร์เซ็นต์ โดยมีกลไกที่สำคัญคือ มีผลต่อการปรับภูมิคุ้มกันของร่างกาย (immunomodulatory effects) และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant effects) นอกจากนี้แล้วซิงค์ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันรังสี UV มีรายงานวิจัยถึงการนำเอาแร่ธาตุซิงค์มาใช้ในการรักษาโรคผิวหนังชนิดต่างๆ เช่น สิว, โรคสิวหน้าแดง (rosacea) หรืออาการผิวหนังอักเสบเรื้อรัง, ฝ้ากระ และ ฝี เป็นต้น
มีงานวิจัยที่สนับสนุนว่าการทานซิงค์ช่วยรักษาสิวได้ โดยมีกลไกที่สำคัญคือการยับยั้งเอนไซม์ของจุลินทรีย์ P. acnes และจากงานวิจัยของ Sharquie K. E. และคณะ (2006) แสดงให้เห็นว่าการทานซิงค์ในปริมาณ 100 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยลดอาการอักเสบในโรคสิวหน้าแดงหรือโรซาเซียได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีอาการข้างเคียง
การรับประทานแร่ธาตุซิงค์เพื่อการรักษาโรคแนะนำให้ทานวันละ 100 มิลลิกรัม (ซิงค์) ส่วนการรับประทานเพื่อเป็นแร่ธาตุเสริมแนะนำให้เด็กอายุ 1-10 ขวบ ทานวันละ 10 มก. ในวัยรุ่นทานวันละ 15 มก. ส่วนผู้ใหญ่ทานในปริมาณ 20-25 มก. ต่อวัน
ไม่พบรายงานอาการข้างเคียงที่เป็นอันตรายจากการทานซิงค์ ยกเว้นบางรายอาจจะทำให้มีแก๊สในกระเพาะอาหารเล็กน้อย